จอห์น เทอร์รี กับวินาทีที่โลกฟุตบอลหยุดหายใจ การลื่นล้มที่มอสโก
ค่ำคืนวันที่ 21 พฤษภาคม 2008 ที่สนามลุชนิกิ สเตเดียม กรุงมอสโก นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ระหว่าง เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดำเนินไปอย่างดุเดือดจนต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ หลังเสมอกันในเวลา 1-1 และในจังหวะชี้เป็นชี้ตายที่เชลซีขึ้นนำอยู่ 4-3 หากยิงเข้าจะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกทันที คนที่เดินมารับหน้าที่คือ จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมผู้อุทิศทั้งชีวิตให้สโมสร
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย เทอร์รีก้าวขึ้นมาพร้อมความกดดันมหาศาล เขารู้ดีว่า หากยิงเข้า เขาจะกลายเป็นกัปตันผู้พาเชลซีขึ้นสู่จุดสูงสุดของยุโรป แต่ในจังหวะที่วิ่งเข้าไปยิง เขากลับ "ลื่นล้ม" และบอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ทำให้ความหวังของเชลซีพังลงต่อหน้าต่อตา ช่วงเวลานั้นกลายเป็นภาพที่จารึกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยุโรปทันที
แม้จะมีคำถามตามมามากมาย เช่น ทำไมเขาถึงไม่เปลี่ยนสตั๊ด? สนามลื่นขนาดไหน? หรือทำไมกัปตันทีมถึงไม่ส่งให้คนอื่นรับหน้าที่ยิง? แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เทอร์รีคือผู้นำตัวจริงในสนาม และความกล้ารับผิดชอบของเขาเป็นสิ่งที่ได้รับการยกย่อง แม้จะพลาดในจังหวะสำคัญที่สุดของอาชีพก็ตาม
การลื่นของจอห์น เทอร์รีไม่ใช่แค่ความผิดพลาดธรรมดา แต่มันคือช่วงเวลาที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของสโมสรเชลซีอย่างถาวร หากลูกนั้นเข้า บางทีโชคชะตาและความสำเร็จของสโมสรอาจมาเร็วกว่านี้หลายปี แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็เป็นบทเรียนสำคัญที่ผลักดันให้เชลซีกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม และสุดท้ายคว้าแชมป์ UCL ได้สำเร็จในปี 2012 ครั้งนี้ จอห์น เทอร์รี ไม่ได้อยู่ในสนามตอนชูถ้วย แต่คราวนั้นเขายิ้มได้เต็มที่







แสดงความคิดเห็น