ค่ำคืนที่ลิเวอร์พูลพลิกนรกใส่บาร์เซโลน่า

วันที่ 7 พฤษภาคม 2019 คือค่ำคืนที่สนาม แอนฟิลด์ ได้สร้างปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันคือเกมนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศ ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า โดยที่สถานการณ์ก่อนเกมดูเหมือนจะจบลงแล้ว เนื่องจากนัดแรกที่คัมป์ นู พวกเขาพ่ายแพ้มาอย่างขาดลอยถึง 0-3 ซึ่งน้อยคนนักที่จะเชื่อว่าทัพ "หงส์แดง" จะสามารถพลิกกลับมาได้ เพราะตามทฤษฎีแล้ว การยิงคืน 4 ประตู โดยไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวให้กับทีมที่มี ลิโอเนล เมสซี่ อยู่ในทีม ดูเหมือนจะเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เลย

เกมเริ่มต้นด้วยความร้อนแรงอย่างเหลือเชื่อ และความหวังของแฟนบอลก็ถูกจุดติดอย่างรวดเร็วเมื่อ ดิว็อค โอริกี้ กองหน้าตัวสำรองที่ได้รับโอกาส ได้ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 7 แม้จะเป็นประตูที่ทำให้สกอร์รวมตามมาเป็น 1-3 แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมันได้ปลุกพลังของแอนฟิลด์ให้ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ และเป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้มาเยือนว่าค่ำคืนนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็แลกหมัดกันอย่างดุเดือด แต่จบครึ่งแรกสกอร์ยังคงเป็น 1-0 ทำให้ภารกิจที่เหลือยังคงต้องยิงอีกอย่างน้อย 2 ประตู

ช่วงต้นครึ่งหลัง ผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจส่ง จอร์จินิโอ ไวนัลดุม ลงมาเป็นตัวสำรองแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่แท้จริงของเกม เพียงแค่สองนาทีเท่านั้น ไวนัลดุม ก็ทำประตูที่สองให้ลิเวอร์พูลในนาทีที่ 54 ตามด้วยประตูที่สามในนาทีที่ 56 จากการโหม่งอันทรงพลัง ทำให้สกอร์รวมกลับมาเท่ากันที่ 3-3 และสถิติที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มจนแทบทำให้สนามระเบิดออก ทีมลิเวอร์พูลที่เพิ่งถูกบาร์ซ่าถล่มมาในสัปดาห์ก่อน ได้กลับมามีโอกาสเข้ารอบอีกครั้ง

ในช่วงที่บาร์เซโลน่ากำลังสับสนและตั้งตัวไม่ติดกับความรวดเร็วของเหตุการณ์ ความมหัศจรรย์สุดท้ายก็อุบัติขึ้นในนาทีที่ 79 เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เห็นช่องว่างที่ผู้เล่นบาร์ซ่าไม่ได้ทันระวังตัว เขาตัดสินใจเตะลูกเตะมุมอย่างรวดเร็วให้กับ ดิว็อค โอริกี้ ที่ยืนรออยู่บริเวณจุดโทษ โอริกี้ซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูที่สี่และเป็นประตูชัย 4-0 ที่นำพาลิเวอร์พูลแซงเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ การทำประตูด้วยความชาญฉลาดและความกล้าหาญที่ไม่คาดคิดนี้ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของค่ำคืนมหัศจรรย์ที่แอนฟิลด์

ชัยชนะเหนือ บาร์เซโลน่า 4-0 ในค่ำคืนนั้น ถูกเรียกว่า "ปาฏิหาริย์ที่แอนฟิลด์" และถือเป็นหนึ่งในการคัมแบ็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรป มันพิสูจน์ให้เห็นถึง จิตวิญญาณนักสู้ และ ความเชื่อมั่น ที่ไม่มีวันยอมแพ้ของทีมลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่การคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนั้นได้สำเร็จ เรื่องราวนี้ได้กลายเป็นตำนานที่ตอกย้ำว่าสนามแอนฟิลด์คือสถานที่ที่ความฝันที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ สามารถกลายเป็นความจริงได้เสมอ





Post a Comment

أحدث أقدم