เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล เขาพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองความยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 26 ปี ด้วยการคว้าแชมป์มากมาย รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 13 สมัย! แต่ความสำเร็จของเขาไม่ได้มาจากแท็กติกในสนามเท่านั้น หากแต่มาจาก กลยุทธ์ผู้นำ และ ปรัชญาการบริหารทีม ที่เฉียบคมจนถูกนำไปสอนในโรงเรียนธุรกิจชั้นนำอย่าง Harvard Business School นี่คือ 5 บทเรียนสำคัญที่ผู้นำและผู้บริหารทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
1. "ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าสโมสร" (The Club is Bigger)
นี่คือหลักการที่แข็งแกร่งที่สุดใน ปรัชญาการทำงาน ของ Sir Alex Ferguson ท่านเซอร์เชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นคนใดเริ่มคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าทีม นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ต้องจัดการทันที ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกก็ตาม
- แก่นแท้ของกลยุทธ์ผู้นำ: การรักษา วินัย และ วัฒนธรรมองค์กร ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผู้นำต้องกล้าตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อรักษาผลประโยชน์และเสถียรภาพของทีมโดยรวมเอาไว้
 
2. เน้นสร้างรากฐานจาก "เยาวชน" เพื่อความจงรักภักดี
กลยุทธ์การบริหารทีม ของเฟอร์กูสันไม่ใช่แค่การซื้อซูเปอร์สตาร์ แต่คือการ ลงทุนระยะยาว ในการพัฒนาเยาวชนของสโมสร (เช่น Class of '92 ที่เป็นกำลังหลักของทีมยาวนานนับสิบปี)
- เหตุผลเชิงบริหาร: การปลูกฝังผู้เล่นตั้งแต่เด็ก สร้างความเข้าใจใน DNA ของทีม ทำให้พวกเขามี ความจงรักภักดี ต่อสโมสรสูง และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อทีมอย่างแท้จริง ซึ่งช่วยลดปัญหาด้านอีโก้ในการ บริหารทีม ชุดใหญ่
 
3. กล้าที่จะ "สร้างทีมใหม่" แม้ในวันที่ชนะ (Dare to Rebuild)
หนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จที่น่าทึ่งของ Sir Alex Ferguson คือความสามารถในการ ปรับตัวและสร้างทีมใหม่ ได้ถึง 4 ยุค ตลอด 26 ปีที่ แมนยู เขานำนักเตะแกนหลักออกไปและนำคนรุ่นใหม่เข้ามาทดแทนอย่างชาญฉลาด แม้ในวันที่ทีมยังคงคว้าแชมป์อยู่ก็ตาม
- บทเรียนสำหรับองค์กร: อย่าหยุดนิ่งอยู่กับความสำเร็จในปัจจุบัน ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องมีวิสัยทัศน์ในการมองไปข้างหน้าและกล้าที่จะปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้องค์กรอยู่รอดและเป็นผู้นำตลาดต่อไป
 
4. ใช้ "จิตวิทยา" เข้าใจภูมิหลังของทุกคน
เฟอร์กูสันใช้หลักการบริหารคนที่เน้นการ สื่อสาร และ ทำความเข้าใจ ที่มาที่ไปของนักเตะแต่ละคน เขาเคยกล่าวว่าต้องเข้าใจว่าปู่ย่าตายายของนักเตะทำงานอะไร เพื่อเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่หล่อหลอมตัวตนของพวกเขา
- การบริหารทีมและคน: การสื่อสารไม่ได้มีรูปแบบเดียว ผู้นำต้องปรับวิธีการพูดและการจูงใจให้เหมาะกับบุคลิกและพื้นฐานของลูกทีมแต่ละคน (บางคนต้องให้กำลังใจ, บางคนต้องใช้ "ไดร์เป่าผม" ในห้องส่วนตัว)
 
5. ปลูกฝัง "สปิริตผู้ชนะ" จนนาทีสุดท้าย (Winning Mentality)
ปรากฏการณ์ "Fergie Time" (การทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ) ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคช่วย แต่มาจาก ปรัชญาการเล่น ที่ไม่ยอมแพ้ ท่านเซอร์สั่งให้ลูกทีมเสี่ยงและเปิดเกมบุกอย่างเต็มที่ในช่วงท้ายเกมแม้จะตามหลังก็ตาม
- แนวคิดสู่ความสำเร็จองค์กร: ผู้นำต้องปลูกฝัง ความเชื่อมั่น และ ความกระหายในการชนะ ให้กับลูกทีมอยู่เสมอ การเปลี่ยนผู้เล่นในช่วงท้ายเกม (การตัดสินใจ) ของเขาสะท้อนให้เห็นว่า การบริหารทีม ที่ดีคือการตัดสินใจที่เด็ดขาดและกล้าได้กล้าเสียในสถานการณ์วิกฤต
 









إرسال تعليق